มช. ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 801-1000 ของโลก
จากผลการจัดอันดับของ
THE World University Rankings 2024
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2566 Times Higher Education ได้ประกาศผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก Times Higher Education World University Rankings 2024 โดยในปีนี้มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมการจัดอันดับ 2,673 แห่งจากทั่วโลก ซึ่งได้รับการจัดอันดับทั้งหมด 1,904 แห่ง มีสถาบันที่ได้รับการจัดอันดับเพิ่มจากปีที่แล้ว 105 แห่ง และมหาวิทยาลัยของไทยได้รับการจัดอันดับรวมทั้งหมด 19 แห่ง เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 1 แห่ง คือ มหาวิทยาลัยพะเยา
ผลการจัดอันดับของสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ อันดับที่ 1 ร่วม จำนวน 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล (อันดับที่ 601-800 ของโลก) อันดับที่ 3 ร่วม จำนวน 2 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (อันดับที่ 801-1000 ของโลก) และอันดับที่ 5 มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (อันดับที่ 1001-1200 ของโลก)
ซึ่งในปี 2024 นี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้ขยับขึ้นเป็นอันดับที่ 801-1000 ของโลก หรืออันดับที่ 3 ของประเทศ จากเดิมอันดับที่ 1001-1200 ของโลก หรืออันดับที่ 5 ของประเทศ ในปี 2023 และจากผลคะแนนรายตัวชี้วัด พบว่า มช. มีความเข้มแข็งในด้านอุตสาหกรรม (Industry) โดยได้รับคะแนนในตัวชี้วัดนี้ จำนวน 58.1 คะแนน ซึ่งสะท้อนการเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำที่รับผิดชอบต่อสังคมเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยนวัตกรรม สามารถสร้างผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญและมีความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก
การจัดอันดับ Times Higher Education World University Rankings พิจารณาจากตัวชี้วัดคุณภาพ 5 ด้าน คือ ด้านการเรียนการสอน (Teaching) 29.5% ด้านสภาพแวดล้อมการวิจัย (Research Environment) 29% ด้านคุณภาพการวิจัย (Research Quality) 30% ด้านภาคอุตสาหกรรม (Industry) 4% และ ด้านความเป็นนานาชาติ (International Outlook) 7.5%
โดยในปี 2024 ได้มีการปรับตัวชี้วัดหลัก ๆ ดังนี้
- Citations (30%) ได้เปลี่ยนชื่อตัวชี้วัดเป็น Research quality (30%) และเดิมพิจารณาจากค่า Field Weighted Citation Impact ได้ปรับ/เพิ่มตัวชี้วัดย่อย ดังนี้ Citation impact (15%) Research strength (5%) Research excellence (5%) และ Research influence (5%)
- Industry Income (2.5%) ได้เปลี่ยนชื่อตัวชี้วัดเป็น Industry (4%) และได้เพิ่มตัวชี้วัดย่อย Patents (2%)
ที่มา: https://www.timeshighereducation.com/world-university-rankings/2024/world-ranking